เเครอท ผักที่เรานำส่วนของรากมารับประทานหรือบางคนเรียกว่าหัว ซึ่งเป็นส่วนที่สะสมอาหารมีคุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ด้วยสีของแครอทที่เป็นสีส้มอมแดง จึงนิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น ผัด ใส่แกงจืด ทำเป็นส้มตำ ดอง ทำขนม แต่งสีของอาหาร รวมทั้งทำน้ำผักสมุนไพรด้วย
ส่วนผสม
เนื้อแครอท 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 1 1/2 ถ้วยตวง
เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำเครอทมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เติมน้ำลงไปแล้วปั่นให้ละเอียด
2. เติมน้ำผึ้ง น้ำมะนาวเกลือและน้ำ ปั่นให้เข้ากัน
3. ได้น้ำแครอทพร้อมดื่มคุณค่าทางสมุนไพร
คุณค่าทางสมุนไพร
น้ำแครอทได้จากการนำเนื้อแครอทมาปั่น ซึ่งมีปริมาณเกลือ โปแตสเซียมสูง มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ สารเบต้า-แคโรทีนเป็นสารที่เปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย อันเป็นประโยชน์ต่อระบบสายตา เช่น โรคตาฟาง รวมทั้งน้ำมันหอมระเหยที่มีฤทธิ์ช่วยขับพยาธิไส้เดือนได้อีกด้วยสรรพคุณทางยาของแครอทนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าในหัวของแครอทนั้นมีสาระสำคัญอย่างหนึ่ง ได้แก่เบต้าคาโรทีน ที่มีอำนาจยับยั้งเซลล์ของมะเร็งได้ด้วยไม่ทำให้เกิดเซลล์มะเร็ง ต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี ซึ่งธรรมชาติได้สร้างมาให้มนุษย์เราอย่างเหมาะสมมาก
การรับประทานอาหารที่มีคุณค่า รวมถึงน้ำผักสดอย่างเช่นแครอทสามารถจะมีบทบาทต่อการสร้างผิวสวยให้กับคุณได้ เป็นอย่างดี น้ำแครอทมีผลต่อสุขภาพผิวเพราะมีคุณสมบัติในการป้องกันและรักษา จึงจะช่วยให้ผิวสดใสดูมีสุขภาพดี
แครอทเป็นผักที่มีคุณสมบัติในการเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับผิว ขณะเดียวกันก็ช่วยซ่อมแซมเนื้อเหยี่อของผิวหนังไปพร้อมกัน ในน้ำแครอทเป็นแหล่งวิตามินAซึ่งเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อสุขภาพผิว และในน้ำแครอทยังอุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแด๊นท์รวมถึงไฟโตเคมิคอล วิตามินและเกลือแร่หลายชนิดที่ช่วยปกป้องบำรุงและให้ความชุมชื่นกับผิวสาร อาหารที่ได้จากแครอท ยังช่วยลดความไวต่อแสง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และป้องกันผิวอันตรายจากแสงแดด น้ำแครอทยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบเสริมสร้างการผลัดเซลล์และกระซับ ผิว ในเวชสำอางยังนำแครอทมาใช้รักษาโรคทางผิวหนังเช่น พุพอง ผื่นคันและรอยเหี่ยวย่น ที่มีผลต่ออนุมูลอิสระ น้ำแครอทยังใช้ในการรักษาแผลขีดข่วนและรอยถลอกอีกด้วย น้ำแครอทช่วยปรับสภาวะความเป็นกรดให้สมดุลมากขึ้นและวิตามิน A ในแครอทจะช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การที่ร่างกายมีวิตามินA น้อยเกินไปหรือมีไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบหลายอย่างต่อผิวพรรณ เช่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยเป็นสิว ผิวแห้งหรือหยาบกร้าน โดยเฉพาะผิวที่แขนและขา การบริโภคน้ำแครอทจะช่วยรักษาปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม การชีสามารถน้ำคั้นจากแครอทและสับปะรดผสมเข้าด้วยกันทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกทำเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ผิวสดใส ลดริ้วรอยและกระซับผิวให้เต่งตึง นอกจากนี้การดื่มน้ำแครอทมากเกินไปนอกจากร่างกายจะไม่สามารถนำสารแคโรทีนมา ใช้ได้อย่างเหมาะสม ยังอาจเป็นพิษต่อไตด้วย
แครอทเป็นผักที่มีคุณสมบัติในการเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับผิว ขณะเดียวกันก็ช่วยซ่อมแซมเนื้อเหยี่อของผิวหนังไปพร้อมกัน ในน้ำแครอทเป็นแหล่งวิตามินAซึ่งเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อสุขภาพผิว และในน้ำแครอทยังอุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแด๊นท์รวมถึงไฟโตเคมิคอล วิตามินและเกลือแร่หลายชนิดที่ช่วยปกป้องบำรุงและให้ความชุมชื่นกับผิวสาร อาหารที่ได้จากแครอท ยังช่วยลดความไวต่อแสง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และป้องกันผิวอันตรายจากแสงแดด น้ำแครอทยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบเสริมสร้างการผลัดเซลล์และกระซับ ผิว ในเวชสำอางยังนำแครอทมาใช้รักษาโรคทางผิวหนังเช่น พุพอง ผื่นคันและรอยเหี่ยวย่น ที่มีผลต่ออนุมูลอิสระ น้ำแครอทยังใช้ในการรักษาแผลขีดข่วนและรอยถลอกอีกด้วย น้ำแครอทช่วยปรับสภาวะความเป็นกรดให้สมดุลมากขึ้นและวิตามิน A ในแครอทจะช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การที่ร่างกายมีวิตามินA น้อยเกินไปหรือมีไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบหลายอย่างต่อผิวพรรณ เช่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยเป็นสิว ผิวแห้งหรือหยาบกร้าน โดยเฉพาะผิวที่แขนและขา การบริโภคน้ำแครอทจะช่วยรักษาปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม การชีสามารถน้ำคั้นจากแครอทและสับปะรดผสมเข้าด้วยกันทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกทำเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ผิวสดใส ลดริ้วรอยและกระซับผิวให้เต่งตึง นอกจากนี้การดื่มน้ำแครอทมากเกินไปนอกจากร่างกายจะไม่สามารถนำสารแคโรทีนมา ใช้ได้อย่างเหมาะสม ยังอาจเป็นพิษต่อไตด้วย
เเหล่งที่มา
https://sites.google.com
No comments:
Post a Comment